[deam205]

หนึ่งในปัญหาที่มีความสำคัญที่ "หลุดนักเรียน" จะต้องพบเจอคือ มุมมองจากสังคมที่มักตีตราเชิงลบ คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าการออกจากสถานที่เรียนซึ่งก็คือความล้มเหลว หรือเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ ทั้งที่ตามความเป็นจริง คนกลุ่มนี้อาจมีทักษะเฉพาะที่เด่นและความสามารถที่ไม่ธรรมดา

ในโลกที่ยึดติดกับใบปริญญา การที่นักเรียนคนหนึ่งเลือกออกจากระบบการศึกษาเล่าเรียนอาจถูกมองว่าแตกต่าง ไหมเป็นที่ยอมรับ แต่ว่าช่วงหลังๆความนึกคิดนี้เริ่มแปรไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนดังระดับโลกออกมาเล่าประสบการณ์ของตน ได้แก่ Steve Jobs, Bill Gates หรือ Mark Zuckerberg ที่ออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อไล่หลังความฝัน จนถึงเปลี่ยนเป็นบุคคลระดับนานาชาติ

เรื่องราวเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้กับ "หลุดนักเรียน" หลายๆคน ว่าความสำเร็จมิได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน แม้กระนั้นสามารถกำเนิดได้จากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความพยายาม รวมทั้งความองอาจในการเสี่ยง

การเจริญเติบโตเฉพาะบุคคลจากการหลุดระบบ
สำหรับบางบุคคล การออกจากสถานที่เรียนคือจุดเริ่มของการค้นพบตนเอง การหลุดจากกรอบเดิมๆให้โอกาสให้สำรวจความสนใจ ความถนัด และก็ความสามารถในแบบที่ระบบการเล่าเรียนอาจไม่เคยแลเห็น

ยกตัวอย่างนักเรียนที่ออกจากสถานศึกษาเพื่อเดินตามเส้นทางศิลป์ ในห้องเรียนบางทีอาจรู้สึกอึดอัด แต่ว่าเมื่อออกมาแล้วกลับสามารถฝึกซ้อม พัฒนาฝีมือ และก็ทำงานสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มเปี่ยม คนจำนวนไม่น้อยในสายงานศิลป์ ดนตรี หรือวางแบบ ต่างก็ประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องพึ่งวุฒิการศึกษาแบบเป็นทางการ

ในสายงานเทคโนโลยีหรือธุรกิจ การไม่มีวุฒิก็อาจไม่เป็นอุปสรรค หากสามารถพิสูจน์ความสามารถได้ เป็นต้นว่า ผู้ที่ออกมาจากสถานศึกษาแล้วเรียนเขียนโค้ดด้วยตัวเอง บางทีอาจก้าวไปสร้างบริษัทซอฟต์แวร์ของตนเองได้

นอกเหนือจากนั้น การออกจากโรงเรียนยังบางทีอาจเป็นช่องทางสำหรับการเยียวยาทางด้านจิตใจ เด็กนักเรียนที่จำเป็นต้องออกจากระบบเนื่องจากว่าถูกกลั่นแกล้ง มีปัญหาครอบครัว หรือปัญหาด้านสุขภาพจิต บางทีอาจใช้เวลานี้สำหรับการรักษาตัว ฟื้นฟูสภาพจิตใจ แล้วก็ก้าวข้ามความเจ็บในอดีตกาล