�อีกหนึ่งคู่รักที่ �Livali Wedding รับจัดงานแต่งงาน� จัดออกมาด้วยความอบอุ่นและประทับใจอย่างที่สุดสำหรับคู่รักคู่นี้ คุณแพรและคุณแน๊ต ขอบคุณทุกความรักที่ทำให้เราได้รู้จักกัน ขอบคุณทุกโอกาสที่คู่บ่าวสาวมอบให้เรา ขอบคุณทุกคำชื่นชมและความชื่นใจของคุณพ่อคุณแม่ ที่สุดแสนประทับใจในผลงานของเรา เราจะตอบแทนทุกความไว้วางใจ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมและประทับใจ ��Livali Wedding รับจัดงานแต่งงาน�ฤกษ์ดีปีนี้ให้ ลีวาลีย์ เวดดิ้ง ดูแลงานแต่งงานของคุณ เพราะเรา จะทำให้วันที่สำคัญที่สุด เป็นมากกว่า " งานแต่งงาน "สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมFACEBOOK https://www.facebook.com/livaliwedding/LINE.�รับจัดงานแต่งงาน� ออแกไนซ์งานแต่งงาน� ให้เช่าพานขันหมาก Livali WeddingIG : livaliweddingWEBSITE. http://www.livaliwedding.com/Mobile 0888744499,0979565144ลีวาลีย์ เวดดิ้ง �รับจัดงานแต่งงาน� รับจัดงานแต่งครบวงจร ออแกไนซ์งานแต่งงาน� ดูแลพิธีการ โดย ดิ๊พ บอยสเก๊าท์ พิธีกรงานแต่ง ขอดูแลทุกคู่รัก ด้วยหัวใจ ด้วยอุปกรณ์ที่ทรงคุณค่าและมีความสวยงามตามหลักจารีตประเพณี ลำดับทุกขั้นตอนพิธี โดย พิธีกรงานแต่งงาน�ออแกไนซ์งานแต่งงาน� มืออาชีพ ดิ๊พ บอยสเก๊าท์LIVALI WEDDING �รับจัดงานแต่งงาน� บริการถ่ายพรีเวดดิ้ง#พิธีกรงานแต่งงาน #พิธีกรงานแต่งงานเช้า #พิธีกรงานอีเว้นท์ #พิธีกร #ให้เช่าพานขันหมาก #รับจัดพานขันหมาก #รับจัดพานขันหมากเอก #รับจัดพานขันหมาก #นายพิธีงานแต่งงาน #นายพิธี #พิธีกร #รับจัดงานแต่งงาน #รับจัดงานแต่งงานเช้า #รับจัดงานแต่งพิธีเช้า #ออแกไนซ์งานแต่ง #พิธีกรงานแต่ง #พิธีกรงานแต่งงาน #รับจัดงานแต่งงานครบวงจร #รับจัดงานแต่งงายที่บ้าน #รับจัดงานอีเว้นท์ #รับจัดงานทำบุญ #รับจัดงานเปิดตัว #รับถ่ายพรีเวดดิ้ง #รับถ่ายพรีเซ็นเทชั่น #พรีเวดดิ้ง #พรีเซ็นเทชั่นงานแต่งงาน #พรีเซ็นเทชั่นคู่บ่าวสาว #Presentationwedding #Presentationถ้าคุณกำลังต้องการมองหาคนดูแล �รับจัดงานแต่งงาน� พื่อให้คุณสามารถมีความสุข มีความอบอุ่น มีความทรงจำที่ดีภายในการจัดงานแต่งงาน โดยไม่ต้องวิตกกังวลในงานที่จะออกมาไม่ตรงตามที่ตั้งใจเอาไว้ หรือการลำดับพิธีที่ผิดพลาด คุณมีความจำเป็นที่จะต้องให้ออแกไนซ์ ดูแลการจัดงานแต่งงาน ที่มีความรู้และความสามารถ �รับจัดงานแต่งงาน� ดูแลทั้งในเรื่องของงานตกแต่งและการลำดับพิธีอันนี้สำคัญมากที่สุด งานของคุณจึงจะออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ �ออแกไนซ์งานแต่งงาน� LIVALI WEDDING ( ลีวาลีย์ เวดดิ้ง ) �รับจัดงานแต่งงาน� ออแกนไนช์� รับจัดงานแต่งงาน� อันดับ 1 ในใจคู่บ่าวสาว ด้วย package การจัดการที่ครอบคลุมงบประมาณของทุกคู่บ่าวสาวที่เลือกได้ตามความต้องการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมFACEBOOK https://www.facebook.com/livaliwedding/LINE. �รับจัดงานแต่งงาน� �ออแกไนซ์งานแต่งงาน�ให้เช่าพานขันหมาก Livali WeddingIG : livaliweddingWEBSITE. http://www.livaliwedding.com/Mobile 0888744499,0979565144ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน� รับจัดงานแต่งครบวงจร ออแกไนซ์งานแต่งงาน� ดูแลพิธีการ โดย ดิ๊พ บอยสเก๊าท์ พิธีกรงานแต่ง ขอดูแลทุกคู่รัก ด้วยหัวใจ ด้วยอุปกรณ์ที่ทรงคุณค่าและมีความสวยงามตามหลักจารีตประเพณี ลำดับทุกขั้นตอนพิธี โดย พิธีกรงานแต่งงาน มืออาชีพ ดิ๊พ บอยสเก๊าท์LIVALI WEDDING รับจัดงานแต่งงาน� บริการถ่ายพรีเวดดิ้ง




Tags : รับจัดงานแต่งงาน� ออแกไนซ์งานแต่งงาน�

ประกันรถยนต์ 2+ เป็นรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่มอบความคุ้มครองในระดับที่ครอบคลุมมากขึ้นกว่าประกันชั้น 3+ โดยเน้นให้ความคุ้มครองทั้งรถของผู้เอาประกันและรถคู่กรณีในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงคุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในราคาที่เข้าถึงได้

จุดเด่นของประกันรถยนต์ 2+
1. คุ้มครองรถชนรถ
  - คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก เช่น รถยนต์, รถมอเตอร์ไซค์ ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

2. คุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้
  - ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์ถูกโจรกรรมหรือเกิดเหตุไฟไหม้

3. คุ้มครองบุคคลภายนอก
  - ครอบคลุมความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของคู่กรณี

4. คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล
  - คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันชั้น 3+ เช่น กรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้
- ผู้ที่ใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันและต้องการความอุ่นใจในราคาที่คุ้มค่า
- ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม


ทำไมต้องเลือกประกันรถยนต์ 2+ กับเรา?
- ราคาเริ่มต้นเพียง 7,000 บาท
- คุ้มครองครบทั้งรถชนรถ สูญหาย และไฟไหม้
- บริการซ่อมอู่มาตรฐานทั่วประเทศ
- ช่องทางซื้อประกันออนไลน์สะดวก รวดเร็ว

หากสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.viriyah.com/motor-insurance/class-two-plus

พิมพ์นามบัตร Digital Offset ราคาคละแบบได้ เริ่มต้นขั้นต่ำ 100 ใบ 100 บาท
พิมพ์เพลินพริ้นท์ มีบริการ Template พิมพ์นามบัตรสวยๆ ไว้ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ
พิมพ์นามบัตรด่วน
              การพิมพ์นามบัตรในการแนะนำตัวเป็นมารยาทพื้นฐานสำคัญในการแนะนำตัวหรือการติดต่องานที่เป็นทางการ
ท่านต้องมีการพิมพ์นามบัตรเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาไม่สมควรให้ห่างจากตัวแม้ว่าจะเป็นวันส่วนตัวธรรมดาก็ได้  เพราะคุณ
ไม่สามารถคาดคิดได้ว่าจะต้องใช้มันเมื่อไหร่  ท่านอาจจะได้เจอคู่ค้าทางธุรกิจในวันเหล่านี้ก็เป็นได้  ดังนั้นอย่างน้อย
ท่านควรแบ่งพิมพ์นามบัตรไว้ในกระเป๋าสตางค์ บนรถ หรือสอดไว้ตามที่ต่างๆ เป็นต้น  เนื่องด้วยจำนวนการพิมพ์นามบัตร
ควรคำนึงความเหมาะสมให้ดีและเมื่อนามบัตรใกล้หมดควรจะสั่งพิมพ์ล่วงหน้าโดยพิจารณาระยะเวลาในการจัดทำด้วย
โดยเหตุที่หากพิมพ์นามบัตรไม่เพียงพอต่อการใช้งานอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการงานและธุรกิจที่สำคัญได้
              การแจกนามบัตรนั้นคุณเชื่อหรือไม่ว่าถูกจัดลงในหลักสูตรการศึกษาด้านธุรกิจเกือบทั่วโลก  บางหนท่านอาจจะ
คิดว่าการพิมพ์นามบัตรเป็นการสิ้นเปลืองหรือใช้คุณค่าไม่ได้ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศเช่นนี้  แต่ทว่าแม้แต่บริษัทผู้นำ
พวกไอทีระดับโลกยังคงต้องใช้นามบัตรกันอยู่ทั้งนั้น  เพราะว่าความหมายโดยนัยในการแจกนามบัตรนั้นเป็นการแสดงให้เห็น
ถึงความอยากที่ให้ความช่วยเหลือ  การแจกนามบัตร หรือติดต่อพบปะกันในคราวหน้า ทำให้ผู้รับรู้สึกชื่นชอบในครั้งแรกในตัวท่าน
หรือสำหรับบางประเทศที่มีวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ถือว่าการ[url=https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset]พิมพ์นามบัตร[/url]ส่งมอบแก่ผู้อื่นเป็นมารยาทพื้นฐานที่ขาดไม่ได้
              ทั้งนี้มาสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดลักษณะขั้นต้นของนามบัตร  นามบัตรนั้นมักจะนิยมใช้กำหนด
ขนาดตามหลักสากลโดยจะอยู่ที่ 9.4 x5.5เซ็นต์  ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการการดีไซน์พิมพ์นามบัตรแทบจะ
มีการกำหนดขนาดโครงหน้าเท่าขนาดนามบัตรจริงเกือบทุกโปรแกรม  สำหรับสิ่งที่ต้องอยู่ในนามบัตรนั้นอย่างน้อยที่สุด
ต้องกำหนดชื่อและวิธีเลือกติดต่อกลับ  โดยหลายท่านไม่นิยมระบุชื่ออาจจะใส่ชื่อบริษัทหรือห้างร้านก็ได้ สำหรับช่องทางการ
สื่อสารกลับอาจจะให้เป็นเบอร์โทรศัพท์  ที่อยู่ หรืออีเมล ก็ได้ตามแต่สะดวก การพิมพ์นามบัตรนั้นท่านสามารถออกแบบได้
ด้วยตนเองและพิมพ์นามบัตรใช้เองก็ได้  แต่คุณภาพอาจจะไม่ดีพอที่จะใช้ในระยะยาวหรือหากพิมพ์ใช้เป็นปริมาณมาก
อาจจะมีค่าใช้จ่ายอาจจะแพงกว่าโรงพิมพ์อีกด้วย
              สำหรับการพิมพ์นามบัตรโดยโรงพิมพ์นั้นในปัจจุบันมีราคาไม่แพงโดยขึ้นอยู่กับปริมาณที่สั่งพิมพ์  โดยสิ่งที่ต้อง
พิจารณาหลักๆ คือคุณลักษณะของงานพิมพ์แต่ละใบ  อย่างไรก็ตามความคมชัดและรายละเอียดของหมึกจะดีกว่าเครื่องพิมพ์
เอนกประสงค์ตามบ้านโดยทั่วไปแน่นอนและเป็นได้เลือกใช้กระดาษแบบต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้เครื่องพิมพ์ที่บ้านได้ ซึ่งที่
นิยมกันหลักแล้วก็จะเป็นกระดาษอาร์ตการ์ดที่มีความหนา 260 แกรมขึ้นไปเพื่อให้มีความทนทานเพียงพอ  แต่บางครั้ง
อาจจะเลือกใช้กระดาษแบบอื่นที่บางกว่าแล้วใช้การเคลือบผิวพลาสติกบนบนงานพิมพ์นามบัตรเพื่อเพิ่มความแข็งและ
ความทนทานซึ่งจะมีทั้งเคลือบแบบเงาและแบบด้านก็ได้  นอกจากเรื่องประกอบการพิมพ์ที่ดีแล้วโรงพิมพ์เหล่านี้จะมี
เทคนิคการตกแต่งพิเศษที่การเคลือบ UVหรือ SPOT UVเพื่อให้หมึกเพิ่มความเงาเน้นในจุดที่ตั้งใจ เป็นต้น
              เทคนิคการพิมพ์นามบัตรแต่ละแห่งจะแตกต่างกันออกไปโดยคุณสามารถเลือกหรือขอดูตัวอย่างงานเหล่านั้น
จากโรงพิมพ์ที่ใช้บริการได้  หรืออาจจะยกตัวอย่างความต้องการของคุณให้กับโรงพิมพ์เพื่อที่จะสามารถช่วยคิดวิธีการที่จะได้
งานพิมพ์นามบัตรที่ตรงตามใจของคุณได้
Tags : พิมพ์นามบัตร

เปรียบเทียบ: ไม้เอ็นจิเนียร์ vs. ไม้จริง vs. ลามิเนต เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับบ้านคุณ

การเลือกพื้นไม้สำหรับบ้านหรืออาคารของคุณเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ เพราะพื้นมีผลต่อบรรยากาศ ความสวยงาม และการใช้งานในระยะยาว ในตลาดพื้นไม้ปัจจุบัน มีตัวเลือกยอดนิยมอยู่ 3 ประเภทหลักๆ ที่หลายคนมักจะสับสนหรือไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี นั่นคือ พื้นไม้จริง (Solid Wood), พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) และ พื้นไม้ลามิเนต (Laminate)
แม้ทั้งสามประเภทจะให้ความรู้สึกคล้าย "พื้นไม้" แต่โครงสร้าง คุณสมบัติ และความเหมาะสมในการใช้งานนั้นแตกต่างกันอย่างมาก บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเปรียบเทียบพื้นไม้ทั้งสามประเภทนี้ในทุกแง่มุม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกพื้นไม้ที่ใช่และเหมาะกับความต้องการของคุณที่สุด

ทำความรู้จักพื้นไม้ทั้ง 3 ประเภทแบบสั้นๆ
ก่อนจะเข้าสู่การเปรียบเทียบเชิงลึก มาทบทวนลักษณะเฉพาะของพื้นแต่ละประเภทกันอีกครั้ง:
[ol]

• พื้นไม้จริง (Solid Wood Flooring): ทำจากไม้จริงธรรมชาติ 100% ทั้งชิ้น ความหนาสม่ำเสมอ มักเป็นแผ่นไม้เนื้อแข็ง มีลิ้นและร่อง (Tongue and Groove) สำหรับการติดตั้ง
• พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Flooring): (ตามบทความก่อนหน้า) ประกอบด้วยชั้นไม้จริงบางๆ ด้านบน (Wear Layer) และมีชั้นแกนกลางที่ทำจากไม้หลายชั้นหรือวัสดุไม้อัดประสานแบบสลับเสี้ยน เพื่อเพิ่มความคงตัว
• พื้นไม้ลามิเนต (Laminate Flooring): ไม่ได้ทำจากไม้จริง แต่เป็นการนำวัสดุต่างๆ มาอัดประสานกัน ชั้นบนสุดเป็นแผ่นฟิล์มพิมพ์ลายไม้ (Decorative Layer) เคลือบด้วยวัสดุทนทานต่อการขีดข่วน (Wear Layer) ส่วนชั้นแกนกลางมักเป็น HDF (High-Density Fibreboard)

[/ol]

เลือกพื้นแบบไหนดี ให้เหมาะกับบ้านคุณ?
จากตารางเปรียบเทียบ จะเห็นว่าพื้นไม้ทั้งสามประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกพื้นไม้ที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างของคุณ:
[ul]

• เลือกพื้นไม้จริง (Solid Wood) หาก:
  [ul]
  
  • คุณให้ความสำคัญกับความสวยงามและความเป็นธรรมชาติของไม้จริงในระดับสูงสุด
  • ต้องการพื้นที่มีอายุการใช้งานยาวนานมาก และยินดีที่จะดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการขัดทำสีใหม่ในอนาคต
  • มีงบประมาณสูง และสามารถจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งได้
  • พื้นที่ติดตั้งมีความชื้นและอุณหภูมิค่อนข้างคงที่
  [/ul]
  
• เลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) หาก:
  [ul]
  
  • คุณต้องการพื้นผิวที่สวยงามเหมือนไม้จริง แต่ต้องการคุณสมบัติเรื่อง ความคงตัวสูง ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นได้ดีกว่าไม้จริง
  • ต้องการตัวเลือกในการติดตั้งที่หลากหลายและง่ายกว่าไม้จริง (เช่น ต้องการติดตั้งแบบลอยตัว หรือปูบนพื้นคอนกรีต/พื้นทำความร้อน)
  • ต้องการพื้นไม้จริงในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าพื้นไม้จริงแผ่นเดียว
  • ต้องการพื้นไม้ที่สามารถขัดทำสีใหม่ได้บ้าง เพื่อยืดอายุการใช้งาน
  [/ul]
  
• เลือกพื้นไม้ลามิเนต (Laminate) หาก:
  [ul]
  
  • งบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
  • ต้องการพื้นผิวที่ ดูแลรักษาง่ายที่สุด และทนทานต่อรอยขีดข่วน/คราบสกปรกในชีวิตประจำวันได้ดีมาก
  • ต้องการติดตั้งพื้นด้วยตัวเอง (DIY) เนื่องจากระบบคลิกล็อกทำได้ง่าย
  • ไม่ได้กังวลว่าต้องเป็นไม้จริง 100% และยอมรับได้กับความแตกต่างด้านความรู้สึกและสัมผัสเมื่อเทียบกับไม้จริง
  • พื้นที่ติดตั้งไม่มีความเสี่ยงเรื่องความชื้นสูง (ไม่แนะนำสำหรับห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่น้ำมีโอกาสขัง)
  [/ul]
  

[/ul]

ไม่มีพื้นไม้ประเภทใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน การตัดสินใจเลือกพื้นไม้จริง ไม้เอ็นจิเนียร์ หรือลามิเนต ควรพิจารณาจากความต้องการส่วนบุคคล ไลฟ์สไตล์ งบประมาณ สภาพแวดล้อมของพื้นที่ติดตั้ง และระดับการดูแลรักษาที่คุณยอมรับได้
พื้นไม้จริงให้ความแท้และความหรูหราสูงสุดพร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ต้องดูแลเป็นพิเศษ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มอบความสวยงามของไม้จริงพร้อมความคงตัวที่เหนือกว่าและความยืดหยุ่นในการติดตั้ง ส่วนพื้นลามิเนตเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ติดตั้งง่าย และดูแลรักษาง่ายที่สุด

Tags : การเลือกไม้เอ็นจิเนียร์ชนิดต่างๆ

ข้อดี-ข้อเสีย ของไม้เอ็นจิเนียร์ ก่อนตัดสินใจติดตั้งพื้นไม้

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นหนึ่งในตัวเลือกพื้นไม้ที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามเหมือนไม้จริงแต่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับวัสดุปูพื้นทุกประเภท ไม้เอ็นจิเนียร์ก็มีทั้งข้อดีที่โดดเด่นและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกข้อดีและข้อเสียของ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจว่าพื้นประเภทนี้เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของคุณหรือไม่
ข้อดี ของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ที่ทำให้เป็นที่นิยม

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกยอดนิยมเหนือพื้นไม้ประเภทอื่นในหลายสถานการณ์:
[ol]

• ความคงตัวสูง ทนทานต่อสภาพอากาศ: นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของไม้เอ็นจิเนียร์ ด้วยโครงสร้างแบบหลายชั้นที่นำมาอัดประสานและสลับเสี้ยนไม้ ทำให้มีการยืดหดตัวหรือขยายตัวน้อยมากเมื่ออุณหภูมิและความชื้นในอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วหรือรุนแรงกว่าพื้นไม้จริงแผ่นเดียว ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิด้วยเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา หรือในคอนโดมิเนียมที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมบ่อยๆ
• สวยงามเหมือนไม้จริง 100%: เนื่องจากชั้นบนสุดของไม้เอ็นจิเนียร์คือแผ่นไม้จริง (Wear Layer) คุณจึงได้พื้นผิวที่สวยงามตามธรรมชาติของชนิดไม้ต่างๆ เช่น โอ๊ค, วอลนัท, เมเปิ้ล, สัก พร้อมลวดลาย สีสัน และผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของไม้แท้ ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหราไม่ต่างจากพื้นไม้จริงคุณภาพสูง
• ติดตั้งได้หลากหลายและง่ายกว่า: ไม้เอ็นจิเนียร์มีความยืดหยุ่นในการติดตั้งสูง สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบลอยตัว (Floating) โดยไม่ต้องใช้กาวหรือตะปู (โดยเฉพาะรุ่นที่มีระบบคลิกล็อก) แบบติดกาว (Glue-down) หรือแบบยึดด้วยตะปู (Nail/Staple Down) ซึ่งการติดตั้งแบบลอยตัวและติดกาวทำให้สามารถปูทับบนพื้นคอนกรีตเดิม หรือพื้นกระเบื้องเดิมได้โดยตรงโดยไม่ต้องรื้อทิ้ง ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปูบนระบบพื้นทำความร้อนใต้พื้น (Underfloor Heating System) ในหลายกรณี
• ราคาเข้าถึงง่ายกว่าพื้นไม้จริง: โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นไม้จริงที่ทำจากไม้เนื้อแข็งชนิดเดียวกัน ไม้เอ็นจิเนียร์มักจะมีราคาต่อตารางเมตรที่ย่อมเยากว่าอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นผิวไม้จริงในงบประมาณที่จำกัดลงมา
• ใช้ทรัพยากรไม้จริงน้อยกว่า: เนื่องจากใช้ไม้จริงเฉพาะในส่วนของชั้นบนสุดเท่านั้น ทำให้การผลิตไม้เอ็นจิเนียร์ใช้ไม้จริงจากป่าปลูกหรือไม้มีค่าในปริมาณน้อยกว่าการผลิตพื้นไม้จริงทั้งชิ้น ซึ่งในแง่มุมของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ถือว่ามีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ได้มากกว่า (ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของไม้และกระบวนการผลิต)
• ทนทานต่อการใช้งาน: ด้วยโครงสร้างแบบหลายชั้นและแกนกลางที่แข็งแรง ช่วยให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทนทานต่อการบิดงอ โก่งตัว หรือการเกิดร่อง (Cupping/Warping) ได้ดีกว่า ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานภายใต้การดูแลที่เหมาะสม

[/ol]

ข้อเสีย/สิ่งที่ควรพิจารณา ของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์
แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ไม้เอ็นจิเนียร์ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ควรรับทราบก่อนตัดสินใจ:
[ol]

• การขัดทำสีใหม่ได้จำกัดครั้ง: เนื่องจากชั้นไม้จริงด้านบน (Wear Layer) มีความหนาจำกัด (โดยทั่วไปประมาณ 0.6 มม. ถึง 6 มม.) ทำให้ไม่สามารถขัดผิวหน้าเพื่อทำสีใหม่ได้หลายครั้งเท่าพื้นไม้จริงที่ทำจากไม้แผ่นเดียว ความหนาของชั้นไม้จริงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดจำนวนครั้งที่สามารถขัดได้ หากชั้นไม้จริงบางมาก อาจไม่สามารถขัดทำสีใหม่ได้เลย หรือได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานสูงสุดของพื้น
• ไวต่อรอยขีดข่วนและรอยบุบ (บนชั้นไม้จริง): แม้โครงสร้างจะคงตัว แต่ชั้นบนสุดคือไม้จริง ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนไม้จริงทั่วไป คือสามารถเกิดรอยขีดข่วน รอยบุบ หรือรอยลึกได้หากมีการใช้งานหนัก หรือมีของตกใส่ หรือลากเฟอร์นิเจอร์หนักๆ โดยไม่มีการป้องกัน โดยเฉพาะหากเลือกไม้เนื้ออ่อนมาทำเป็นชั้นบนสุด ความทนทานต่อรอยขึ้นอยู่กับชนิดของไม้และความแข็งของผิวไม้จริง
• คุณภาพมีความหลากหลายสูง: คุณภาพของไม้เอ็นจิเนียร์แตกต่างกันไปอย่างมากในท้องตลาด ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ชนิดของวัสดุที่ใช้ทำชั้นแกนกลาง ความหนาของชั้นไม้จริง และคุณภาพของกาว/สารเคลือบที่ใช้ การเลือกไม้เอ็นจิเนียร์ราคาถูกมากๆ อาจได้วัสดุที่มีชั้นไม้จริงบางมาก แกนกลางทำจากวัสดุคุณภาพต่ำ หรือมีปัญหาเรื่องความคงตัวได้ง่ายกว่าไม้เอ็นจิเนียร์เกรดสูง
• ไม่ทนทานต่อน้ำท่วมขัง: แม้จะทนความชื้นและคงตัวได้ดีกว่าไม้จริง แต่พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ส่วนใหญ่ ไม่กันน้ำ 100% หากมีน้ำหกใส่แล้วปล่อยทิ้งไว้นาน หรือเกิดน้ำท่วมขัง น้ำอาจซึมผ่านรอยต่อหรือผิวหน้าลงไปทำลายชั้นแกนกลาง (โดยเฉพาะ HDF) ทำให้พื้นบวม พอง หรือเสียหายอย่างถาวร ไม่เหมาะกับการติดตั้งในห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีน้ำท่วมขัง
• อาจมีสารเคมีในกระบวนการผลิต: กาวและสารเคลือบที่ใช้ในการผลิตไม้เอ็นจิเนียร์บางชนิดอาจมีการปล่อยสารระเหยอินทรีย์ (VOCs - Volatile Organic Compounds) ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในอาคารได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานรับรองว่ามีการปล่อย VOCs ต่ำ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัย

[/ol]

ตัดสินใจติดตั้งไม้เอ็นจิเนียร์ ดีไหม?
คำถามว่าควรติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์หรือไม่นั้น ไม่มีคำตอบตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อดีและข้อเสียข้างต้นประกอบกับความต้องการและข้อจำกัดเฉพาะของคุณ:
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมหาก:
[ul]

• คุณหลงใหลในความสวยงามและสัมผัสของพื้นไม้จริง
• ต้องการพื้นไม้ที่มีความคงตัวสูง ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
• ต้องการติดตั้งบนพื้นคอนกรีต หรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเรื่องความชื้นบ้าง (แต่ไม่ใช่พื้นที่เปียกแฉะตลอดเวลา)
• มองหาพื้นไม้จริงในราคาที่สมเหตุสมผลและเข้าถึงง่ายกว่า
• ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง

[/ul]
คุณอาจต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นหาก:
[ul]

• ต้องการพื้นไม้ที่สามารถขัดทำสีใหม่ได้หลายครั้งมากๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• ต้องการพื้นที่มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยบุบสูงมาก (อาจต้องพิจารณาพื้นไม้จริงเนื้อแข็งพิเศษ หรือวัสดุอื่นที่มีความแข็งแรงผิวสูงกว่า)
• ต้องการพื้นสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะมีน้ำท่วมขังหรือความชื้นสูงตลอดเวลา (เช่น ห้องน้ำ)
• กังวลเรื่องสารเคมีและต้องการวัสดุที่เป็นธรรมชาติ 100% ที่ไม่มีการใช้กาวสังเคราะห์ (ต้องเลือกพื้นไม้จริงที่ใช้กาวหรือน้ำยาเคลือบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม)

[/ul]


พื้นไม้เอ็นจิเนียร์นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสวยงามตามธรรมชาติของไม้จริงกับคุณสมบัติเด่นด้านความคงตัวและการติดตั้งที่ง่ายกว่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับบ้านและอาคารสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม การรับรู้ถึงข้อจำกัดเรื่องการขัดทำสีใหม่ได้จำกัดครั้ง และความไวต่อรอยขีดข่วนบนผิวหน้า รวมถึงการไม่ทนทานต่อน้ำท่วมขัง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่คุณควรทราบก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่คุณเลือกจะตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับคุณในระยะยาวครับ

Tags : ข้อดีและข้อเสียม้เอ็นจิเนียร์

สัมมาสังกัปปะ (ความคิดที่ถูกต้อง) เมื่อมี "สัมมาทิฏฐิ"วัฏสงสาร สังสารวัฏ สงสารวัฏวิสุทธิ ๗มัคคสมังคี มรรคสมังคีปฏิจจสมุปบาทอินทรีย์อริยสัจ ๔ความทุกข์ ความดับทุกข์ทําไมเราต้องมีศาสนาทําไมเราต้องมีศาสนาคิดดี พูดดี ทำดี เป็นไฉนจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งคิดดี พูดดี ทำดี เป็นไฉนความทุกข์ ความดับทุกข์ทําไมเราต้องมีศาสนากรรมวัฏฏะวิวัฏฏะมหาสุญญตาสูตรอรูปพรหมภูมิ ๔รูปพรหมภูมิ ๑๖อบายภูมิ ๔ เดรัจฉานภูมิอบายภูมิ ๔ อสุรกายภูมิอบายภูมิ ๔ เปตภูมิอบายภูมิ ๔ นรกภูมิกามสุคติภูมิ ๗ สวรรค์ ๖ภพภูมิของสัตว์โลก ๓๑ ภูมิบันได ๑๐ขั้นสู่อรหันต์สติปัฏฐาน ๔วิปัสสนากัมมัฏฐานสมถกัมมัฏฐานวิปัสสนาญาณ ๙วิปัสสนาญาณ ๑๖มรรคมีองค์ ๘ความสุขที่แท้จริงโสดาบันสกทาคามีอนาคามีพระอรหันต์ ๔ ประเภทพระอรหันต์โลกวิปัตติสูตร โลกธรรม ๘อาทิตตปริยายสูตรอนัตตลักขณสูตรธัมมจักกัปปวัตตนสูตรทําไมเราต้องมีศาสนาคิดดี พูดดี ทำดี เป็นไฉนจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง จงทำญาณให้เห็นจิต เหมือนดั่งตาเห็นรูปความทุกข์ ความดับทุกข์พุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานวิมุตติจิต จิตตื่นรู้ พ้นจากอวิชชาสมมุติทั้งปวง

ผลิตป้ายไวนิล,ธงญี่ปุน,สติกกเกอร์,โรลอัพ,STANDEE 
ผลิตคิวงานด่วน 3 ขั่วโมง หลังสรุปงาน
โทร 091 728 3798 (คุณโชค) หรือแอดไลน์@147pvynm

ผลิตป้ายไวนิล,ธงญี่ปุน,สติกกเกอร์,โรลอัพ,STANDEE 
ผลิตคิวงานด่วน 3 ขั่วโมง หลังสรุปงาน
โทร 091 728 3798 (คุณโชค) หรือแอดไลน์@147pvynm

📞 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม & นัดชมบ้าน
📲 092-2092638 | 094-8468866
💬 Line ID: ค้นหาจากเบอร์ 0922092638

📍ติดต่อสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
📞 โทร: 080-596-7777
📱 Line: jacktoon22
🔗 Facebook: https://www.facebook.com/joearoy

เปิดตู้เซฟ ช่างกุญแจเซฟ เปลี่ยนรหัสเซฟ ทำดอกกุญแจเซฟ สะเดาะกุญแจเซฟ เปิดกุญแจบ้าน เปิดกุญแจรถยนต์ ทำดอกกุญแจรถยนต์ บริการ 24 ชั่วโมง

[/b][/size]
เปลี่ยนบ้านให้สวยด้วย ไม้พื้นเทียม: ไอเดียการติดตั้งในส่วนต่างๆ
 
ไม้พื้นเทียม หรือ พื้นไม้เทียม ไม่ได้เป็นแค่วัสดุปูพื้นที่เน้นฟังก์ชันความทนทานและดูแลรักษาง่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สามารถยกระดับความสวยงามและบรรยากาศของบ้านได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยลวดลายและสีสันที่เหมือนไม้ธรรมชาติ แต่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า ทำให้ ไม้พื้นเทียม สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายพื้นที่ ทั้งภายในและภายนอก บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจไอเดียการ ติดตั้งไม้พื้นเทียม ในส่วนต่างๆ ของบ้าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการตกแต่งและปรับปรุงพื้นที่ของคุณให้สวยงามและน่าอยู่ยิ่งขึ้น

ไอเดียการติดตั้ง ไม้พื้นเทียม ในพื้นที่ต่างๆ
ความหลากหลายของ ไม้พื้นเทียม ทำให้มันเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำไปใช้ในโปรเจกต์ตกแต่งได้มากมาย ลองดูไอเดียเหล่านี้เพื่อจุดประกายความคิดของคุณ:
1. พื้นระเบียงและชานบ้าน (Decking & Patio)
[ul]

• ทำไมต้องใช้ ไม้พื้นเทียม: ระเบียงและชานบ้านเป็นพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศโดยตรง ทั้งแดด ฝน ความชื้น การเลือก ไม้พื้นเทียมภายนอก ที่ทนทานต่อปัจจัยเหล่านี้โดยเฉพาะ จะช่วยให้คุณมีพื้นที่พักผ่อนที่สวยงามตลอดปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องไม้ผุ บวม หรือปลวก
• ไอเดียการติดตั้ง:
  [ul]
  
  • เปลี่ยนระเบียงคอนกรีตให้กลายเป็นพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่อบอุ่นเหมือนไม้จริง
  • ทำพื้นชานบ้านสำหรับจัดปาร์ตี้ หรือมุมจิบกาแฟยามเช้า
  • สร้าง Decking ยกระดับในสวน เพื่อแยกโซนพักผ่อนออกจากสนามหญ้า
  [/ul]
  

[/ul]
การ ติดตั้งไม้พื้นเทียมระเบียง นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยลดความร้อนสะสมบนพื้นผิวได้ดีกว่าวัสดุบางประเภทอีกด้วย
2. พื้นรอบสระว่ายน้ำ (Pool Surround)
[ul]

• ทำไมต้องใช้ ไม้พื้นเทียม: พื้นที่รอบสระว่ายน้ำต้องเจอกับน้ำ ความชื้น และสารเคมีจากสระ การใช้ ไม้พื้นเทียมรอบสระว่ายน้ำ ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ทนคลอรีน และมักมีผิวสัมผัสที่ไม่ลื่น จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมือนรีสอร์ท
• ไอเดียการติดตั้ง:
  [ul]
  
  • ปูพื้นรอบสระว่ายน้ำทั้งหมด เพื่อความสวยงามต่อเนื่อง
  • ทำทางเดินจากตัวบ้านไปยังสระว่ายน้ำด้วย ไม้พื้นเทียม
  • สร้าง Deck ข้างสระสำหรับวางเตียงอาบแดด
  [/ul]
  

[/ul]
ไม้พื้นเทียมรอบสระว่ายน้ำ จะไม่เกิดปัญหาไม้แตก หนามตำเท้า เหมือนไม้จริงที่ดูแลไม่ดี ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ
3. ทางเดินในสวนและลานนั่งเล่นกลางแจ้ง (Garden Paths & Outdoor Seating Areas)
[ul]

• ทำไมต้องใช้ ไม้พื้นเทียม: การนำ พื้นไม้เทียมในสวน มาใช้ทำทางเดิน หรือลานเล็กๆ จะช่วยแบ่งพื้นที่ในสวนให้เป็นสัดส่วน ดูแลรักษาง่าย และทนทานต่อความชื้นจากดินและน้ำฝน
• ไอเดียการติดตั้ง:
  [ul]
  
  • ทำทางเดินคดเคี้ยวผ่านสนามหญ้าหรือแปลงดอกไม้
  • สร้างลานเล็กๆ สำหรับวางโต๊ะ เก้าอี้ ท่ามกลางธรรมชาติในสวน
  • ใช้ ไม้พื้นเทียม ทำขอบแปลงต้นไม้ หรือRaised Garden Bed
  [/ul]
  

[/ul]
4. พื้นห้องน้ำและห้องครัว (Bathroom & Kitchen Floors)
[ul]

• ทำไมต้องใช้ พื้นไม้เทียม: ในอดีต การใช้พื้นไม้จริงในห้องน้ำหรือห้องครัวเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากเนื่องจากปัญหาความชื้น แต่ด้วย พื้นไม้เทียม ประเภทที่กันน้ำได้ 100% เช่น SPC หรือ WPC บางรุ่น ทำให้คุณสามารถนำความสวยงามและความอบอุ่นของลายไม้มาใช้ในพื้นที่เหล่านี้ได้อย่างสบายใจ
• ไอเดียการติดตั้ง:
  [ul]
  
  • ปู พื้นไม้เทียมในห้องน้ำ เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนสปา
  • เปลี่ยนพื้นห้องครัวให้สวยงาม ทำความสะอาดคราบหกเลอะได้ง่าย
  • ใช้ พื้นไม้เทียม ในพื้นที่ซักล้าง
  [/ul]
  

[/ul]
พื้นไม้เทียมในห้องน้ำ และห้องครัว เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการบรรยากาศแบบไม้ แต่ต้องการวัสดุที่ใช้งานได้จริงและทนทานต่อน้ำและความชื้น
5. พื้นภายในบ้าน (ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน, ห้องรับประทานอาหาร)
[ul]

• ทำไมต้องใช้ พื้นไม้เทียม: สำหรับพื้นที่ภายในอาคารทั่วไป พื้นไม้เทียมภายในบ้าน (WPC, SPC) ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ทั้งในด้านความสวยงาม ความทนทานต่อรอยขีดข่วน (โดยเฉพาะ SPC) การดูแลรักษาง่าย และการติดตั้งที่รวดเร็ว
• ไอเดียการติดตั้ง:
  [ul]
  
  • ปูพื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอน เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสบาย
  • ใช้ พื้นไม้เทียม ในห้องรับประทานอาหาร ทำความสะอาดเศษอาหารที่หกได้ง่าย
  • ลองใช้เทคนิคการปูลายก้างปลา (Herringbone) หรือลายขัด (Basket Weave) ด้วย พื้นไม้เทียม เพื่อเพิ่มความน่าสนใจทางสายตา (ตรวจสอบว่ารุ่นที่เลือกสามารถทำได้หรือไม่)
  [/ul]
  

[/ul]


ข้อควรพิจารณาในการติดตั้ง ไม้พื้นเทียม
เพื่อให้การ ติดตั้งไม้พื้นเทียม ออกมาสวยงามและคงทน ควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้:
[ul]

• การเตรียมพื้นผิว: พื้นที่ติดตั้งต้องเรียบ สะอาด แห้ง และแข็งแรง หากพื้นไม่เรียบ ควรปรับระดับก่อนติดตั้ง โดยเฉพาะพื้นประเภทคลิกล็อก
• ระบบโครงสร้างรองรับ (สำหรับภายนอก): ไม้พื้นเทียมภายนอก ต้องติดตั้งบนโครงสร้างพื้นที่มีการเว้นระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อให้ระบายน้ำและระบายอากาศได้ดี
• การเว้นระยะขยายตัว: ควรเว้นระยะห่างเล็กน้อยระหว่างแผ่นพื้นกับผนัง หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ เพื่อรองรับการยืดหดตัวของวัสดุ (แม้ ไม้พื้นเทียม จะยืดหดน้อยกว่าไม้จริง แต่ก็ยังมีอยู่)
• ระบบระบายน้ำ (สำหรับภายนอก): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ติดตั้ง ไม้พื้นเทียมภายนอก มีระบบระบายน้ำที่ดี น้ำไม่ขังอยู่ใต้พื้น

[/ul]

แรงบันดาลใจจากภาพถ่าย
การดู ไอเดียพื้นไม้เทียม จากภาพถ่ายโครงการจริง หรือตัวอย่างการติดตั้งต่างๆ สามารถช่วยให้คุณเห็นภาพและเกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่าลืมเข้าไปชม Gallery ภาพผลงานการติดตั้ง ไม้พื้นเทียม เพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบพื้นที่ของคุณ


ไม้พื้นเทียม เป็นวัสดุที่เปี่ยมด้วยศักยภาพในการเปลี่ยนโฉมบ้านของคุณให้สวยงามและใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่พักผ่อนภายนอกอาคารด้วย ไม้พื้นเทียมระเบียงไม้พื้นเทียมรอบสระว่ายน้ำไม้พื้นเทียมในสวน หรือการนำความสวยงามแบบไม้ไปใช้ในพื้นที่ภายในที่ต้องการความทนทานต่อน้ำและความชื้นอย่าง พื้นไม้เทียมในห้องน้ำ หรือ พื้นไม้เทียมในห้องครัว รวมถึงการเพิ่มความอบอุ่นให้กับพื้นที่ใช้สอยทั่วไป การ ติดตั้งไม้พื้นเทียม ด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์และถูกวิธี จะช่วยให้บ้านของคุณสวยงาม ทนทาน และตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว



Tags : ไม้พื้นเทียมตกแต่งบ้าน

เลือก พื้นไม้เทียม อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน? คู่มือฉบับสมบูรณ์
 
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับ พื้นไม้เทียม หรือ ไม้พื้นเทียม และทราบถึงข้อดีที่น่าสนใจมากมายไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือก พื้นไม้เทียม ชนิดที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เนื่องจาก พื้นไม้เทียม ในตลาดมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป การเลือกผิดอาจทำให้พื้นไม่ตอบโจทย์ความต้องการ หรืออาจเกิดปัญหาตามมาได้ คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทของ พื้นไม้เทียม และปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อให้คุณสามารถเลือก พื้นไม้เทียม ที่ใช่สำหรับบ้านของคุณ
รู้จักประเภทของ พื้นไม้เทียม ที่นิยมใช้

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับประเภทของ พื้นไม้เทียม ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ซึ่งแบ่งตามวัสดุและลักษณะการใช้งานหลักๆ ได้ดังนี้:
[ol]

• พื้นไม้เทียม WPC (Wood Plastic Composite):
  [ul]
  
  • ส่วนประกอบหลัก: ใยไม้ธรรมชาติ หรือผงไม้ ผสมกับพลาสติก (มักเป็น PVC) และมีชั้นแกนกลางที่ผสมสารที่ทำให้เกิดฟอง (foaming agent) ทำให้มีน้ำหนักเบาและให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่า
  • คุณสมบัติเด่น: แกนกลางกันน้ำได้ดี มีความยืดหยุ่นตัวเล็กน้อย ให้ความรู้สึกสบายเท้าเมื่อเดิน ซับเสียงได้ดี ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อก
  • การใช้งาน: นิยมใช้เป็น พื้นไม้เทียม ภายใน อาคาร เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว หรือพื้นที่ที่มีความชื้นไม่มากนัก (บางรุ่นที่ออกแบบมาเป็นพิเศษอาจใช้ภายนอกได้ แต่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียด)
  [/ul]
  
• พื้นไม้เทียม SPC (Stone Plastic Composite):
  [ul]
  
  • ส่วนประกอบหลัก: ผงหินปูนธรรมชาติ ผสมกับพลาสติก PVC ขึ้นรูปเป็นชั้นแกนกลางที่แข็งมาก (Rigid Core) ไม่มีส่วนผสมของใยไม้ในแกนกลาง แต่มีชั้นลายไม้เทียมอยู่ด้านบน
  • คุณสมบัติเด่น: แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม แกนกลางกันน้ำได้ 100% ไม่ยืดหดตัวง่ายเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ติดตั้งแบบคลิกล็อกบนพื้นผิวเดิมได้ง่าย
  • การใช้งาน: นิยมใช้เป็น พื้นไม้เทียม ภายใน อาคารเช่นกัน เหมาะมากกับพื้นที่ที่มีการสัญจรสูง หรือต้องการพื้นที่มีความทนทานสูงเป็นพิเศษ และต้องการพื้นกันน้ำ 100% เช่น คอนโดมิเนียม ร้านค้า หรือแม้กระทั่งห้องน้ำและห้องครัว
  [/ul]
  
• ไม้พื้นเทียมภายนอก (PE Composite / Outdoor Composite Decking):
  [ul]
  
  • ส่วนประกอบหลัก: มักมีส่วนผสมของพลาสติก (PE, PP) ในสัดส่วนที่สูงกว่า WPC และผสมกับใยไม้ หรือวัสดุอื่นๆ ขึ้นรูปเป็นไม้พื้นที่มีลักษณะตัน (Solid) หรือกลวง (Hollow)
  • คุณสมบัติเด่น: ถูกออกแบบมาเพื่อความทนทานต่อสภาพอากาศภายนอกโดยเฉพาะ ทั้งแดดจัด ฝน ความชื้น การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และแมลงศัตรูพืชสูงมาก มีความแข็งแรงรับน้ำหนักได้ดี
  • การใช้งาน: ใช้สำหรับติดตั้งภายนอกอาคารโดยเฉพาะ ทำเป็นพื้นระเบียง, ชานบ้าน, พื้นรอบสระว่ายน้ำ, ทางเดินในสวน, หรือรั้ว มักติดตั้งโดยใช้ระบบคลิปหรือสกรูยึดเข้ากับโครงสร้างพื้นด้านล่าง
  [/ul]
  

[/ol]


ปัจจัยสำคัญในการเลือก พื้นไม้เทียม ที่ใช่
การเลือก พื้นไม้เทียม ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ เพื่อให้ได้วัสดุที่ตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด:
[ol]

• สถานที่ติดตั้ง (Installation Location):
  [ul]
  
  • ภายในอาคาร: หากต้องการปูพื้นภายใน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน WPC หรือ SPC เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความต้องการเรื่องความทนทาน การกันน้ำ และความรู้สึกสบายเท้า
  • ภายนอกอาคาร: หากต้องการทำพื้นระเบียง ชานบ้าน หรือรอบสระว่ายน้ำ ไม้พื้นเทียมภายนอก (PE Composite) คือตัวเลือกที่ถูกต้อง เพราะถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรงได้ดีที่สุด
  [/ul]
  
• ลักษณะการใช้งานและความหนาแน่นของการสัญจร (Usage and Foot Traffic):
  [ul]
  
  • พื้นที่ที่มีการสัญจรสูง เช่น ทางเดินหลัก ห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ ควรเลือก พื้นไม้เทียม ที่มีชั้นเคลือบผิว (Wear Layer) หนาและทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง เช่น SPC
  • พื้นที่ที่มีความชื้นสูง หรือมีโอกาสโดนน้ำบ่อยๆ เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่ซักล้าง ควรเลือก พื้นไม้เทียม ที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ 100% เช่น SPC หรือ WPC รุ่นที่ระบุว่ากันน้ำได้ดีเยี่ยม
  [/ul]
  
• งบประมาณ (Budget):
  [ul]
  
  • ราคาของ พื้นไม้เทียม มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภท วัสดุ คุณภาพ แบรนด์ และความหนา โดยทั่วไปแล้ว พื้นไม้เทียมภายนอก คอมโพสิตอาจมีราคาสูงกว่า พื้นไม้เทียม ภายใน WPC หรือ SPC บางรุ่น
  • ควรมองในระยะยาว พิจารณาถึงความคุ้มค่าด้านอายุการใช้งานและค่าบำรุงรักษาด้วย
  [/ul]
  
• ความสวยงามและสไตล์ที่ต้องการ (Desired Appearance and Style):
  [ul]
  
  • พื้นไม้เทียม มีสีสัน ลวดลาย และผิวสัมผัสให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ลายไม้ธรรมชาติแบบคลาสสิกไปจนถึงสีและลวดลายที่ทันสมัย เลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งโดยรวมของบ้าน
  • ผิวสัมผัสมีทั้งแบบเรียบ แบบมีร่อง แบบลายไม้เสมือนจริง ควรเลือกตามความชอบและความเหมาะสมกับการใช้งาน (เช่น ผิวสัมผัสที่ไม่ลื่นสำหรับพื้นที่เปียก)
  [/ul]
  
• ระบบการติดตั้ง (Installation System):
  [ul]
  
  • ระบบคลิกล็อก (Click-Lock): เป็นระบบที่นิยมสำหรับ พื้นไม้เทียม ภายใน (WPC, SPC) ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว มักเป็นการติดตั้งแบบลอยตัว (Floating Floor) ไม่ต้องใช้กาว
  • ระบบยึดด้วยสกรู/คลิป (Screw/Clip Down): เป็นระบบมาตรฐานสำหรับ ไม้พื้นเทียมภายนอก คอมโพสิต ซึ่งต้องติดตั้งบนโครงสร้างพื้นด้านล่าง
  [/ul]
  

[/ol]

คำแนะนำเพิ่มเติมในการตัดสินใจ
[ul]

• ตรวจสอบการรับประกัน: พื้นไม้เทียม แต่ละประเภทและแต่ละแบรนด์มีการรับประกันที่แตกต่างกัน ควรสอบถามและทำความเข้าใจเงื่อนไขการรับประกัน (เช่น การรับประกันอายุการใช้งาน การรับประกันสีไม่ซีดจางสำหรับภายนอก)
• ขอตัวอย่างสินค้า: หากเป็นไปได้ ควรขอตัวอย่าง พื้นไม้เทียม ที่สนใจมาดูสี ลวดลาย และผิวสัมผัสจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนสั่งซื้อจำนวนมาก
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาผู้ขาย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุปูพื้น เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

[/ul]


การเลือก พื้นไม้เทียม ที่เหมาะสมกับการใช้งานไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเข้าใจประเภทของ ไม้พื้นเทียม และพิจารณาจากปัจจัยสำคัญอย่างรอบคอบ ตั้งแต่สถานที่ติดตั้ง ลักษณะการใช้งาน งบประมาณ ความสวยงาม ไปจนถึงระบบการติดตั้ง การใช้คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้เป็นแนวทาง จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณได้เลือก พื้นไม้เทียม ที่มีคุณสมบัติถูกต้องตรงตามความต้องการ และจะสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า สวยงาม และทนทานไปอีกนานแสนนาน



Tags : การเลือกไม้พื้นเทียมคุณภาพดี

สอน photoshop โฟโต้ช๊อป Kato Academy ไม่เป็นไม่กลับ
https://katoacademy.com/photoshop

เยี่ยมชมผลงานได้ที่ >> https://dev-absolute.com