![](https://www.prachachat.net/wp-content/uploads/2020/02/%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99-728x446.jpg)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจอเมริกา เป็นวิถีทางสำหรับ บริษัท ในการระดมทุนแล้วก็สำหรับนักลงทุนในการลงทุนเงินของพวกเขา การแลกเปลี่ยนเงินทุนนี้ช่วยให้ธุรกิจเติบโต สร้างงาน แล้วก็ขับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นอนุญาตให้นักลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทต่างๆมากมายซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนเมื่อเวลาผ่านไปถ้าบริษัทพวกนั้นบรรลุความสำเร็จ นักลงทุนยังสามารถขายหุ้นเมื่ออยากทำกำไรหรือลดการเสี่ยง
ตลาดค้าหุ้นเป็นปัจจัยหลักในการบรรลุผลของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นับตั้งแต่เริ่มในปี 1792 ด้วยการลงชื่อในข้อตกลง Buttonwood โดยนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในนิวยอร์ก 24 ราย จากนั้นเป็นต้นมา ตลาดค้าหุ้นสหรัฐได้พัฒนาเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดรวมทั้งมีการเคลื่อนที่มากที่สุดในโลก ในปี 2020 มีบริษัทที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสาธารณะมากกว่า 3,700 แห่งที่ขึ้นทะเบียนในตลาดค้าหุ้น NYSE และก็ NASDAQ รวมกับค่าหลักทรัพย์ตามราคาท้องตลาดรวม (มูลค่าของหุ้นทั้งปวง) เกือบ 38 ล้านล้านดอลลาร์
ตลาดค้าหุ้นขับเคลื่อนด้วยวัฏจักรเศรษฐกิจแล้วก็ความเชื่อมั่นและมั่นใจของนักลงทุน เมื่อสภาพเศรษฐกิจดี บริษัทชอบไปได้สวยแล้วก็ราคาหุ้นจะสูงขึ้นเนื่องด้วยนักลงทุนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับโอกาสในอนาคต ในทางกลับกัน เมื่อภาวะเศรษฐกิจไม่ดี นักลงทุนบางทีอาจระมัดระวังมากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็เทขายหุ้นทำให้ราคาต่ำลง ในเรื่องที่ร้ายแรง อย่างเช่น ในตอนเศรษฐกิจถดถอยหรือวิกฤตการณ์ทางการเงิน สิ่งนี้อาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดตลาดหมีซึ่งราคาจะลดลงเป็นอย่างมากในช่วงช่วงเวลาหนึ่ง
นักลงทุนมีหลายหนทางสำหรับในการลงทุนในตลาดค้าหุ้นสหรัฐ พวกเขาสามารถซื้อหุ้นแต่ละตัวโดยตรงจากโบรกเกอร์หรือผ่านแพลตฟอร์มการค้าขายออนไลน์ดังเช่นว่า E-Trade หรือ Robinhood ซื้อกองทุนรวมที่ติดตามดัชนีตัวอย่างเช่น S&P 500 หรือซื้อกองทุน ETFs ETF คล้ายกับกองทุนรวม แต่ว่าซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างเช่นหุ้น รวมทั้งให้นักลงทุนได้รับการเสี่ยงที่มากมายในจำพวกสินทรัพย์หรืออุตสาหกรรมที่ไม่เหมือนกันด้วยทุนที่ต่ำกว่าการซื้อหุ้นแต่ละตัว
นอกเหนือจากการให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงตลาดทุนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐยังเป็นที่ตั้งของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีผลกระทบมากที่สุดในโลก เป็นต้นว่า Apple, Microsoft, Amazon, JPMorgan Chase & Co., Alphabet Inc., Berkshire Hathaway Inc. , Facebook Inc. , Johnson & Johnson และ Walmart Inc. บริษัทพวกนี้ประกอบขึ้นเป็นส่วนใหญ่ของดรรชนี S&P 500 ซึ่งใช้กันอย่างมากมายเป็นมาตรฐานสำหรับในการวัดสมรรถนะโดยรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นสหรัฐมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนการเติบโตด้านเศรษฐกิจและสร้างความรวยให้กับบุคคลที่เลือกลงทุน ด้วยการให้การเข้าถึงตลาดทุนที่ที่อื่นๆอาจไม่สามารถที่จะใช้ได้ ช่วยทำให้ธุรกิจขยายตัวแล้วก็สร้างงานในขณะที่ให้โอกาสให้นักลงทุนกระจัดกระจายพอร์ตการลงทุนรวมทั้งอาจได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าจะมีการเสี่ยงที่เกี่ยวพันกับการลงทุนในหุ้น ตัวอย่างเช่น การสูญเสียเงินต้นเหตุเพราะความผันแปรของราคา กระบวนการทำความเข้าใจกับความเสี่ยงเหล่านี้สามารถที่จะช่วยให้ท่านตกลงใจอย่างชาญฉลาดเมื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
ผลหวยหุ้นดาวน์โจนล่าสุด
คำค้นหา : ตรวจผลหวยหุ้นดาวน์โจน